โครงการส่งเสิรม
สุขภาพตาเยาวชน
สำหรับสถานศึกษา


ตรวจคัดกรองระบบการมองเห็นนักเรียน

1 ใน 4 ของเด็กวัยเรียน มีปัญหาทางด้านการมองเห็น

การเรียนรู้กว่า 80% ของน้องๆ หนูๆ ในช่วง 12 ปีแรกนั้นเป็นการเรียนรู้ผ่านการมองเห็น ทุกกิจกรรมในโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ หรือการเล่นสนุกในช่วงพักเที่ยง ล้วนจำเป็นที่ต้องใช้สายตาอย่างหนักในการทำกิจกรรม พัฒนาการการมองเห็นที่บกพร่องหรือล่าช้าจึงส่งผลต่อการเรียนรู้และมักก่อให้เกิดความเครียดในวัยเด็ก ซึ่งในอดีตถึงปัจจุบัน เด็กๆ ที่มีปัญหาทางสายตามักถูกวินิจฉัยหรือเข้าใจผิดว่ามีภาวะการเรียนรู้บกพร่อง ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว พวกเขาแค่มีปัญหาด้านการมองเห็น

เด็กทุกคนควรได้รับการตรวจสุขภาพตาครบวงจรตั้งแต่อายุ 3 ขวบ และทุกๆ ต้นปีการศึกษาใหม่ แต่เด็กก่อนวัยเรียนน้อยกว่า 15% ได้รับการตรวจสุขภาพตา การตรวจคัดกรองสุขภาพตาในโรงเรียน ตรวจตานักเรียน จึงเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยเพิ่มโอกาสให้นักเรียนได้ตรวจสุขภาพตา เพื่อช่วยให้นักเรียนทุกคนสามารถดึงศักยภาพของตัวเองมาใช้ได้อย่างเต็มที่

"โดยปกติแล้ว ผู้ใหญ่ที่มีปัญหาทางสายตาจะเข้ารับการปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลดวงตา แต่สำหรับเด็กๆ นั้นพวกเขามักเข้าใจผิดว่าการมองเห็นของเขาเป็นปกติ หรือเหมือนกับการมองเห็นของคนอื่นๆ จึงเป็นเหตุที่ว่าทำไมพ่อแม่ผู้ปกครองและคุณครูทุกคนต้องใส่ใจเรื่องการมองเห็นของเด็กๆ เพื่อสุขภาพตาที่ดีของน้องๆ หนูๆ นั่นเอง"

เด็กๆ ทุกคนควรค่าแก่การได้รับประโยชน์จากการมองเห็นที่สดใส

การมองเห็นที่ดี เป็นกุญแจสำคัญในการอ่าน การเขียน และการศึกษา การแก้ไขปัญหาการมองเห็นจะช่วยเปิดโอกาสในการเรียนรู้อย่างไร้ขีดจำกัด

การมองเห็นและการอ่านอย่างสบายตาช่วยเพิ่มความมั่นใจ การเห็นคุณค่าในตัวเอง และช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ทั้งในและนอกห้องเรียน

การมองเห็นที่ดีช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น เพราะอิสระในการใช้ชีวิตและความปลอดภัยเริ่มต้นจากการมองเห็นที่ดี

ความแตกต่างในระบบการบริการสุขภาพ: พบว่าโรงพยาบาลในประประเทศไทย น้อยกว่า 20% ที่มีการตรวจการทำงานระหว่างสมองกับตาแบบครบวงจร

ความแตกต่างในระบบการบริการสุขภาพ หมายถึง ความแตกต่างระหว่างการดูแลรักษาที่ผู้ป่วยควรได้รับจริงๆ กับการดูแลรักษาจริงๆ ที่ผู้ป่วยได้รับ จากตารางที่เห็นอยู่ด้านล่างนี้ การมองเห็นของมนุษย์ประกอบไปด้วยการทำงานระหว่างสมองและดวงตา 5 ประเภท ได้แก่ ความสมบูรณ์ของระบบมองเห็น ประสิทธิภาพในการมองเห็น การประมวลตำแหน่งของสิ่งของจากการมองเห็น การวิเคราะห์ทางการมองเห็น/วิเคราะห์สิ่งที่เห็น การประสานการมองเห็นเข้ากับการรับรู้อื่นๆของร่างกาย

Components of Vision: Sornthai's comprehensive eye exams assess all 5 areas

หมอตา (จักษุแพทย์และนักทัศนมาตร) ในประเทศออสเตรเลีย ประเทศที่ชนะอันดับหนึ่งในด้านผลลัพธ์ทางการดูแลสุขภาพ ทำงานร่วมกันเพื่อดูแลสุขภาพตาของผู้ป่วยอย่างครบครันและครอบคลุม ในระหว่างการตรวจตา นักทัศนมาตรจะตรวจทุกๆการทำงาน “ความสมบูรณ์ของระบบมองเห็น” และ “ประสิทธิภาพในการมองเห็น” (ในคอลัมน์ 1 และ 2) ก่อนจ่ายยารักษาดวงตาหรือเริ่มแผนการรักษาที่จำเป็น จากนั้นนักทัศนมาตรจะส่งต่อผู้ป่วยไปยังนักทัศนมาตรพฤติกรรมศาสตร์เพื่อตรวจส่วนที่เหลือ (คอลัมน์ 3, 4  และ 5) ผู้ป่วยคนไหนที่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด และ/หรือ ต้องทานยาจะถูกส่งต่อไปยังจักษุแพทย์

ในทางกลับกัน นักทัศนมาตรในประเทศไทยโดยส่วนใหญ่มักจะตรวจแค่สายตาอย่างละเอียด (การมองเห็นชัด ไม่ชัด) ดูค่าหักเหของแสง และการปรับโฟกัสของตาเพื่อที่จะจ่ายแว่นสายตาหรือคอนแทคเลนส์ ส่วนในโรงพยาบาลผู้ป่วยจะได้รับการตรวจการทำงานของสมองและดวงตาประเภท “ความสมบูรณ์ของระบบมองเห็น” เท่านั้น และในกรณีนี้ผู้ตรวจมักไม่ใช่แพทย์เฉพาะทาง แต่อาจเป็นนางพยาบาลและนักเทคนิคการแพทย์ ก่อนที่จะส่งผลตรวจให้จักษุแพทย์วิเคราะห์ในตอนท้าย เป็นกระบวนการตรวจที่ไม่ครบถ้วนในเชิงทัศนมาตรพฤติกรรมศาสตร์ และมักทำให้พลาดอาการหรือสัญญาณเตือนโรคต่างๆ ได้

นอกเหนือจากนั้น จักษุแพทย์มักหาตัวบ่งชี้โรคเพื่อที่จะทำการรักษาผู้ป่วย ซึ่งทำให้บางครั้ง จักษุแพทย์มองว่าภาวะที่พบเจอระหว่างการตรวจนั้นเป็นเพียงระยะเริ่มต้นของโรค จึงไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ป่วย ในขณะเดียวกันนักทัศนมาตร ผู้ดูแลรักษาดวงตาเบื้องต้น มีหน้าที่หาตัวบ่งชี้ก่อนที่จะพัฒนาเป็นโรคเพื่อป้องกันการเกิดโรคนั้นๆ และยับยั้งการลุกลามของโรคอีกด้วย ดังนั้น หากจักษุแพทย์บอกว่า “ดวงตาของคุณปกติดี” นักทัศนมาตรอาจแจ้งตรงกันข้ามและให้คำแนะนำในการดูแลรักษา นอกจากนี้ จักษุแพทย์อาจตรวจ “ประสิทธิภาพในการมองเห็น” ขั้นพื้นฐานในเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เพื่อวินิจฉัยโรคตาขี้เกียจหรือโรคตาเหล่

ในระบบบริการสุขภาพของประเทศไทย มากกว่า 80% ของการทำงานระหว่างตากับสมองในด้านการมองเห็นมักถูกมองข้าม ทำให้อาการต่างๆ ที่ควรตรวจเจอในเด็ก เช่น ปัญหาด้านการทำงานร่วมกันของสองตาหรือการรวมภาพ กลับกลายเป็นภัยเงียบที่กระทบพัฒนาการของเด็กไทย และทำให้เกิดภาวะการเรียนรู้บกพร่องอย่างไม่ทราบสาเหตุ เป็นผลทำให้เด็กๆ กว่า 25% ต้องทนลำบากเพราะการทำงานที่ผิดปกติของตา นอกจากจะกระทบพัฒนาการและการเรียนแล้ว ยังก่อให้เกิดความไม่สบายตา อาการปวดหัว และอาการอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง

ที่ศรไทย หมอสายตาของเรา ผ่านการฝึกอบรบอย่างพิถีพิถัน เพื่อมอบการดูแลระดับมาตรฐานเดียวกับประเทศออสเตรเลีย (AHPRA) ตรวจตานักเรียน ที่ครอบคลุมการตรวจทุกการทำงานระหว่างสมองและดวงตาเพื่อการมองเห็นและสุขภาพตาที่ดี

พวกเรา ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลดวงตา นำโดยหมอสายตาทัศนมาตรศาสตร์ครอบครัวและพฤติกรรม (การมองเห็นของเด็ก) ที่มากประสบการณ์ทั้งในประเทศไทยและประเทศออสเตรเลีย

ข้อมูลและแนวทาง

เตรียมความพร้อมนักเรียนก่อนตรวจคัดกรองระบบการมองเห็น

ในระหว่างการตรวจคัดกรองสายตา หมอสายตาของเราจะใช้กระบวนการตรวจแบบสั้น ตัวต่อตัว และเป็นการตรวจที่ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกเจ็บหรืออันตราย เพื่อตรวจหาความผิดปกติทางสายตาของนักเรียนแต่ละคน นักเรียนที่มีผลการตรวจผิดปกติอาจต้องมีการประเมินผลเพิ่มเติมโดยหมอสายตาหรือจักษุแพทย์

จากประสบการณ์ที่ได้ตรวจคัดกรองสายตานักเรียนทั่วทางตอนเหนือของรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย การตรวจคัดกรองสำหรับเด็กนักเรียน 80 คน ใช้เวลาทั้งสิ้น 5 ชั่วโมง โดยเราจะจัดตั้ง 2 จุดคัดกรองขึ้นเพื่อ…

1. วัดระดับการมองเห็น
2. ตรวจการทำงานร่วมกันของตาทั้งสองข้าง

โดยก่อนถึงวันตรวจ เราจะขอให้คุณครูแจกใบขออนุญาตจากผู้ปกครองให้กับนักเรียน เฉพาะนักเรียนที่มีลายเซ็นยินยอมจากผู้ปกครองเท่านั้นถึงจะได้รับการตรวจคัดกรองสุขภาพตา และเพื่อความแม่นยำของผลตรวจ คุณครูจำเป็นที่จะต้องย้ำกับนักเรียนในเรื่องของการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในคืนก่อนวันตรวจ เราจะให้คุณครูช่วยทำรายการชื่อนักเรียนและวันเดือนปีเกิดสำหรับการเรียกแถว และรายงานผลตรวจการทำงานสำหรับผู้ปกครอง ในวันตรวจคัดกรองสุขภาพตา เราจะขอให้คุณครูพานักเรียนเข้าห้องตรวจทีละ 10 คนทุกๆ 30 นาที

หลังจากตรวจคัดกรองสุขภาพตาเสร็จเรียบร้อยแล้ว นักเรียนทุกคนจะได้รับจดหมายพร้อมผลตรวจเพื่อนำไปให้กับผู้ปกครองของตัวเอง เราจำเป็นที่จะต้องย้ำเตือนว่า การคัดกรองสุขภาพสายตาไม่สามารถทดแทนการตรวจสุขภาพตาแบบครบวงจรได้ ซึ่งจำเป็นสำหรับเด็กอายุระหว่าง 3 ถึง 18 ปีเป็นอย่างมาก

ขอสมัครรับการตรวจคัดกรอง
ระบบการมองเห็นนักเรียน
ตรวจตานักเรียน แบบไม่มีค่าใช้จ่าย

พวกเรา ครอบครัวและองค์กรศรไทย เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าการมองเห็นที่ดีนั้นเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานสำหรับโอกาสที่ดีในชีวิตของเด็กวัยกำลังโต เราจึงยินดีให้บริการ ตรวจตานักเรียน โดยหมอสายตาแบบไม่มีค่าใช้จ่ายให้กับทุกๆ สถาบันการเรียน โปรดกรอกแบบฟอร์มที่อยู่ด้านล่างนี้ เพื่อขอรับการตรวจคัดกรองสุขภาพตานักเรียนแบบไม่มีค่าใช้จ่าย ทีมงานของเราจะรีบติดต่อกลับไปโดยเร็วที่สุด

หากคุณต้องการขอสมัครรับการตรวจคัดกรองสำหรับครูและบุคลากร คลิกที่นี่

    Preferred Dates For School Screening

    Primary eye care by Australian
    board-certified optometrist

    Primary eye care by Australian
    board-certified optometrist

    แหล่งข้อมูลออนไลน์สำหรับคุณครูและผู้ดูแลเด็ก เพื่อ ตรวจตานักเรียน

    แหล่งข้อมูลออนไลน์ ที่เราคัดเลือกเพื่อคุณครูและผู้ดูแลเด็กทุกคน รวมถึงแบบทดสอบง่ายๆ แต่ได้ผลจริง สำหรับตรวจสอบว่านักเรียนของคุณกำลังประสบปัญหาด้านการมองเห็นหรือมีปัญหาสุขภาพตาหรือไม่ ก่อน ตรวจตานักเรียน