เมื่อก่อนเรามักจะพบโรคนี้ได้บ่อยในกลุ่มวัยกลางคน และในวัยสูงอายุ หรือเฉพาะในบางอาชีพ ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมการทำงานที่ต้องเผชิญกับแสงแดดจัดๆ หรือทำงานในที่ๆต้องโดนลมปะทะเข้าตาตลอด

แต่ในปัจจุบัน ทั้งสภาพอากาศ และแสงแดดที่ร้อนจัดขึ้นเรื่อยๆ บวกกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นตัวเร่งให้เกิดความเสื่อมต่างๆในร่างกาย ไม่เว้นแม้กระทั่งดวงตาของเรา ทำให้ ไม่ว่าจะอายุมาก หรืออายุน้อยขนาดไหน หรือไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร ก็มีโอกาสเป็นโรคนี้กันได้ทั้งนั้นค่ะ

 

สำหรับในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้ในเรื่องของโรคต้อลม ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ลักษณะของโรคเป็นยังไง อาการและสาเหตุของโรคนั้น เราจะสามารถป้องกันได้หรือไม่กันค่ะ

โรคต้อลมเป็นโรคของดวงตา ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อปกติ  พัฒนากลายเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงที่อยู่บนเยื่อบุตาขาว ซึ่งสร้างความรำคาญ และไม่สวยงามบนดวงตาคู่สวยของเรานั่นเองค่ะ

 

ลักษณะ:

-เป็นตุ่มนูน หรือแผ่นบางๆ มีสีเหลืองหรือสีขาว แตกต่างกันไปในแต่ละคน

-พบบ่อยที่บริเวณตาขาวที่ติดกับกระจกตา ทางฝั่งหัวตา   -บางรายสามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ในบางรายที่ยังเป็นไม่มาก หมอและนักทัศนมาตร จะใช้เครื่องมือที่เรียกว่า slit-lampในการตรวจหาโรคค่ะ

อาการ:

-ระคายเคือง แสบตา มีอาการตาแดง

-สามารถเกิดต้อลมอักเสบได้ หากได้รับการกระตุ้นซ้ำๆ ในบริเวณที่เป็นอยู่ เช่น การขยี้ตาบ่อยๆ เป็นต้น

-คนไข้บางรายอาจมีความรู้สึกเหมือนมีเม็ดทรายหรือฝุ่นเล็กๆติดอยู่ในดวงตาตลอดเวลา

สาเหตุ และ การรักษา

สาเหตุ:
เกิดจากการที่ดวงตา สัมผัสกับแสงแแดด ปะทะกับฝุ่น ลม หมอกควัน เป็นประจำ
*(แสงแดด ฝุ่น ลม หมอกควัน นับเป็นตัวกระตุ้นหลัก ที่ทำให้เนื้อเยื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง จนกลายมาเป็นต้อลมในที่สุด)

การรักษา:
โรคต้อลม “ไม่จำเป็นต้องรักษา “ และในปัจจุบันก็ยังไม่มียาตัวไหนที่ช่วยรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้นะคะ
เว้นแต่ในบางราย มีอาการรุนแรง จนถึงขั้นรู้สึกเจ็บตา ดวงตาบวมแดง คุณหมออาจมีการให้ยาลดการอักเสบมาใช้ในช่วงสั้นๆเท่านั้นค่ะ

ฉะนั้นไม่ควรหลงเชื่อคำโฆษณา ว่ามียารักษาโรคต้อลมให้หายขาดได้ ที่มีการแชร์กันทางโลกออนไลน์อยู่บ่อยครั้งนะคะ เพราะอย่างที่บอก “ต้อลมหายขาดไม่ได้ มีแต่หยุดไม่เป็นเพิ่มได้ “และสิ่งที่หยุดการพัฒนาของโรคนี้ได้ก็คือ การสวมแว่นตาไม่ว่าจะเป็นแว่นสายตา หรือแว่นกันแดด ที่มีคุณสมบัติกรองแสง ทั้งรังสีUVA UVB เพื่อเป็นการลดการสัมผัส หรือปะทะกับสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เป็นโรคต้อลมนั่นเองค่ะ

แนะนำเพิ่มเติม

นอกจากใส่แว่นติดตาตลอดแล้ว ก็ควรหยอดนำ้ตาเทียม (เน้นว่าควรใช้น้ำตาเทียมชนิดรายวัน เพราะไม่มีสารกันเสียเจือปน) ให้หยอดเป็นประจำ ทุกๆ1-3ชั่วโมง หรือทุกครั้งที่มีอาการคันเคืองตา เพื่อให้ความชุ่มชื้นกับผิวของดวงตา และลดการเสียดสีระหว่างเปลือกตาและเยื่อบุตาได้ค่ะ

แต่สำหรับคนที่ยังไม่เป็นโรคนี้ การใส่แว่นตาที่มีคุณสมบัติตามที่บอกไป นับว่าเป็นเกราะป้องกันโรคต้อลมได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

โรคนี้รักษาไม่หาย แต่ป้องกันเพื่อไม่ให้เป็นเพิ่มได้ หากใครไม่เป็น ก็อย่ารอให้เป็นก่อน

วิธีง่ายๆ ให้ท่องไว้ให้ขึ้นใจเลยค่ะ

“แค่ลดการปะทะกับแสงแดด ฝุ่น ลม หรือควัน โดยหันมาใส่แว่นเท่านั้นนะคะ”

 

บทความต่อไป เราจะมาพูดถึงเรื่องโรคต้อเนื้อ สำหรับใครที่ยังสับสนว่าต้อลมกับต้อเนื้อต่างกันอย่างไร สามารถติดตามกันได้เลยค่ะ