อันดับแรกขออธิบายเพื่อทำความเข้าใจเบื้องต้นกันก่อนนะคะผู้อ่านทุกคน
น้ำตาของเรา ถูกสร้างจาก ต่อมน้ำตาส่วนต่างๆที่อยู่ภายในเปลือกตา มีหน้าไม่ให้เยื่อบุตาแห้ง ลดการเสียดสีขณะกระพริบตา ชะล่างฝุ่นละอองและสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองตาออกไป
น้ำตาคนเราถูกแบ่งออกเป็น3ชั้น
- ชั้นไขมัน(lipid layer)สร้างจากต่อมไขมันบริเวณเปลือกตา(meibomian glands)ทำหน้าที่ป้องกันการระเหยของน้ำตา
- ชั้นน้ำ(aqueous layer)กินพื้นที่มากสุดของชั้นนำตา สร้างจากต่อมน้ำตา(lacrimal glands) เป็นที่อยู่ของสารภูมิคุ้มกัน โปรตีนชนิดต่างๆ เพื่อปกป้องเเละให้อาหารกับกระจกตา
- ชั้นเมือก(mucous layer)สร้างจากเยื่อบุผิวตา ทำหน้าที่เกาะผิวกระจกตาไว้
ดังนั้นแล้ว ถ้ามีสิ่งใด มากระทบต่อกระบวนการสร้างน้ำตา หรือมีผลกระทบกับชั้นน้ำตา ก็สามารถนำมาสู่ภาวะดังกล่าวได้
![](https://via.placeholder.com/500x500.png?text=media+not+available&w=500&h=500)
![](https://via.placeholder.com/500x500.png?text=media+not+available&w=500&h=500)
โดยภาวะตาแห้งก็คือโรคของน้ำตา และผิวของดวงตา ซึ่งมีสาเหตุจากหลายปัจจัย สาหตุหลักๆที่มักพบคือ
- – ความเสื่อมของต่อมน้ำตาตามวัย มีผลทำให้ผลิตน้ำตาน้อยลง
- – ความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะเพศหญิง ในวัยหมดประจำเดือน
- – ความรู้สึกที่ผิวกระจกตาลดลง จากสาเหตุต่างๆ
- – เช่นใส่คอนเเทคเลนส์เป็นระยะเวลานานๆ การทำเลสิก
- – ภาวะเบาหวาน ที่ทำให้เส้นประสาททำงานผิดปกติ
- – สภาพแวดล้อมที่ทำให้เกิดการอักเสบของผิวนัย์ตา
- – พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน ได้เเก่
- – จ้องคอมนานๆ ใช้สมาร์โฟนแทบทั้งวัน
- – ต่อมน้ำตาผิดปกติ ในผู้ป่วยเช่น sjogren’s syndrome หรือการถูกรังสี บริเวณรอบดวงตา
อาการของภาวะตาแห้ง
– คันเคือง เหมือนมีทรายหรือฝุ่นอยู่ในตา
– บริเวณตาขาว ดูแดงเนื่องจากการอักเสบ
– ขอบเปลือกตาแดง
– แพ้แสง แพ้ลม ต้องหลับตา หรือกระพริบตาบ่อยๆ
– แสบเคืองตา
– ตาพร่ามัวเป็นบางขณะ
– มักเป็นมากขึ้นในช่วงบ่ายหรือเย็น หรือหลังจากใช้สายตามากๆ
![](https://via.placeholder.com/500x500.png?text=media+not+available&w=500&h=500)
วิธีการดูแลรักษา
- ลดการระเหยของน้ำตา เช่นใส่แว่นติดตาตลอด อาจเป็นแว่นสายตาหรือแว่นกันแดด เพื่อหลีกเลี่ยง หรือลดการปะทะโดยตรง กับลมหรือแสงแดด
- กระพริบตาถี่ๆ โดยพยายามกระพริบตาให้มากกว่า10ครั้งต่อนาที
- การหยอดน้ำตาเทียมเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา
- การรักษาโรคที่พบร่วม เช่นโรคMGD(Meibomian gland dysfunction) โดยการประคบอุ่น และนวดเปลือกตา
- การรับประทานอาหาร ในสัดส่วนของไขมันที่จำเป็น เช่น omega-3 ได้เเก่พวกfish oil ปลาทูน่า ปลาแซลม่อน
- การปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวัน เช่น นอนพักผ่อนมากขึ้น ลดการใช้สายตาลง
เป็นไงกันบ้างคะ สำหรับความรู้ในเรื่องของภาวะตาแห้ง
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ
อย่าลืม อ่านเสร็จ ก็หยอดน้ำตาเทียมเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตากันด้วยนะคะ
![](https://via.placeholder.com/500x500.png?text=media+not+available&w=500&h=500)
หากมีข้อข้องใจ สงสัยว่าตนเอง กำลังตกอยู่ในอาการดังกล่าวหรือไม่ สามารถเข้ามารับคำปรึกษา และตรวจด้านสุขภาพตาได้ที่ร้านแว่นตาศรไทยทุกสาขาเลยนะคะ